Monday, May 27, 2013

ATTITUDE BLOCKED








     เพลงบางเพลง ภาพถ่ายบางรูป หรืองานเขียนบางเรื่องมักมีอิทธิพลต่อเราอย่างมากมายโดยไม่รู้ตัว แตกต่างกันไปตามแต่อารมณ์ของผู้รับสารนั้นๆ 

     และนี่คือบทความในนิตยสารเล่มหนึ่งของไทยเมื่อซักประมาณสี่ห้าปีที่แล้วที่มีอิทธิพลกับตัวผมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นสิงที่จุดประกายสิ่งสุดท้ายให้กล้าคิดกล้าตัดสินใจ เคารพความเป็นตัวเอง และมีทัศนคติต่อการแต่งกายทั้งของตนเองและของผู้อื่นอย่างไร

     ผมไม่คิดว่าบทความด้านล่างนี้จะมีนัยยะเพียงแค่เรื่องการแต่งกายเพียงเท่านั้น แต่นี่คือการสื่อสารถึงการให้ความสำคัญกับการวางทัศนคติในสิ่งที่ถูกที่ควร เพราะผมเชื่อว่าเมื่อเราวางทัศนคติไว้ในจุดเท่าเหมาะสม เราเองก็จะพบว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องสนุกและสร้างสรรค์

     ขอบคุณนามปากกา "เปรู" ที่มอบสาระเชิงเสียดสีเนื้อดีชิ้นนี้ให้กับผมและพวกเรา ขอบคุณที่สอนให้ผมเป็นคนใช้รู้จักใช้ "ทัศนคติ" ถึงเวลาที่ผมจะขอแลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนอื่นบ้างแล้วครับ









 
......................

กบแฟชั่น  ขอเชิญออกนอกกะลา [เรื่อง : เปรู]

"เดวิล" จ๋า
ถอด "ปราด้า" บ้างก็ได้

     ค่ำวันหนึ่งดิฉันไปร่วมงานปาร์ตี้เปิดกางเกงยีนส์สุด "ฮิป" มีโอกาสได้กระทบไหล่ดารา นักร้อง แฟนคลับคนดัง รวมถึงกลุ่มไฮโซ-เซเลบฯมากหน้าแบบระยะประชิด ระหว่างจิบเบียร์และเฝ้ารอแฟชั่นโชว์เริ่ม เด็กสาวกลุ่มหนึ่งปรากฎกายใกล้ตัว พวกเธอเริ่มกระบวนการธรรมชาติของผู้หญิงที่อยู่รวมตัวกัน นั่นคือการจับกลุ่ม"เมาธ์"ชนิดสาวๆ Gossip Girl ยั่งหวั่น เริ่มด้วยการตั้งตัวเป็นเจ๊จ่า ตัดสินการแต่งตัวของเหยื่อที่ผ่านไปมาอย่างหิวกระหาย ส่งเสียงเรียกคนนั้น-คนนี้ว่า "เด็กแนว" พร้อมหัวเราะคิกคักจนคอหด แบบที่ไม่ต้องหันไปมองยังรู้ว่าเย้ยหยัน คำติฉินที่พร่ำถี่ขึ้นเรื่อยๆ ยั่วยุให้ดิฉันหันหน้าหาพวกเธอ ในใจขอนึกว่าขอพิจารณาหน่อยเถอะ ขอดูว่าพวกเธอแตกต่างอย่างไรกับเด็กแนวที่เธอจำกัดความ

     ลุคของพวกเธอไม่ต่างกับผู้ช่วยเบอร์หนึ่งของมิแรนด้าใน The Devil Wears Prada หรือสาวๆใน Gossip Girl เสื้อผ้าดำทะมึนปนระยิบระยับพะบอกราคาเรือนแสน กระเป๋าแบรนด์หรู รองเท้าหลักหมื่น เซ็ตผมหยิกลอนนุ่มฟู (เหมือนกันทั้งกลุ่ม) ในมือมีแบล็คเบอร์รี่คนละเครื่อง จริงๆ ดิฉันว่าพวกเธอก็ดูสวยดี แต่...เท่าที่จำได้ไม่ว่าจะปาร์ตี้งานไหน เดินช้อปปิ้ง หรือจิบกาแฟกินบรันช์ ดิฉันก็เห็นพวกเธอแต่งตัวลักษณะนี้ "ทุกครั้ง" และเมื่อพิจารณาร่วมกับความคิดที่คอยตัดสินการแต่งตัวที่แตกต่างของคนอื่นแล้ว ขอเปลี่ยนความสวย 80% เป็นคะแนนติดลบแทนแล้วกัน

     เสียดายที่ไม่ได้สนิทกับสาวๆ กลุ่มนี้เป็นการส่วนตัว จึงไม่มีโอกาสได้ตั้งคำถามว่า เมื่อวานนี้เด็กแนวที่คุณกำลังตัดสิน อาจแต่งตัวแรงชนิดที่มิแรนด้า "เดวิล" ตัวจริงต้องถอดปราด้าแก้เขิน แล้วพวกคุณที่ไม่ใช่ "เด็กแนว" ไม่คิดจะลองเป็น "เด็กแนว" บ้างหรือ

     สำหรับดิฉัน การแต่งกายควรจะเป็นเรื่องสนุก เป็นเรื่องสร้างสรรค์มากกว่าจะมานั่งเครียดหรือเดียดฉันท์กันด้วยการสร้างลุค สร้างสไตล์ที่ตายตัวไปวันๆ

     ขอคาดว่าสาวๆ กลุ่มนี้เริ่มต้นแต่งตัวด้วยความ "ไม่เข้าใจ"

  • ไม่เข้าใจว่าลุคการแต่งตัวที่ไม่ได้อยู่ในกระแส เข้าท่าอย่างไร
  • ไม่เข้าใจว่ารองเท้าส้นสูงหรือกระเป๋าลิมิเต็ด เอดิชั่น ไม่ใช่สิ่งบอกสถานทะทางสังคมเสมอไป
  • ไม่เข้าใจว่าค็อกเทลเดรสไม่ได้เหมาะกับทุกงาน
  • ไม่เข้าใจว่าโลกใบนี้มีมากกว่าสองด้าน ทั้งๆ ที่โลกนี้...เป็น "สามมิติ" (ทางเลือกที่สามย่อมมีอยู่เสมอ)
  • และไม่เข้าใจว่าทำไม Marc Jacobs ถึงลุกมาใส่กระโปรง?
     เมื่อไม่เข้าใจ จึงตราหน้าว่าสิ่งเหล่านั้นว่า "ผิด" ตราหน้าว่าไม่ได้มาตรฐาน ผลถัดมาคือการบล็อกความคิด   จำกัดไอเดียการแต่งตัวและกลายเป็นแฟชั่นกบในกะลาโดยไม่รู้ตัว...น่าเสียดายจริงๆ

    "ชอบจังแต่ฉันไม่ใช่"

     ค่ำวันถัดมา ดิฉันไปงานปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนศิลปินอินดี้ ในงานได้เจอสาวรุ่นวัย 22 คนหนึ่ง เธอสวมกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดทับด้วยเสื้อกั๊กแบบพอน่ารัก หลังพูดคุยกันจนไวน์แก้วที่สามเริ่มออกรส เธอก็เริ่มจ้อถึงผู้คนในงาน ชี้นิ้วบุ้ยบ้ายไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสวมเดรสวินเทจทับด้วยแจ็คเก็ตตัวสั้น กับสร้อยคอไข่มุกแผงหนา แถมยังสวมถุงเท้ากับรองเท้าส้นสูงอีกด้วย สาวรุ่นส่งประกายสายตาชื่นชม เธอพร่ำว่า "ชอบจัง อยากแต่งตัวแบบนั้นมาก ดูแนวดี"

     ดิฉันตั้งคำถามกลับไปว่า "อ้าว ชอบแล้วทำไมไม่ลองใส่"
     "หนูไม่ใช่เด็กแนว" เธอตอบ
     "อธิบายคำว่าเด็กแนวให้ฟังหน่อย"  ดิฉันสงสัยในความหมายของคำนี้แบบจริงจัง
     เธอตอบดิฉันไม่ได้คะ ได้แต่อ้ำอึ้งว่าแต่งไม่ได้ 

     ในภายหลังดิฉันจึงได้เข้าใจว่า "แนว" ของเธอหมายถึงการแต่งตัวที่แตกต่าง รูปแบบที่ไม่เข้าพวกกับใครๆ รูปแบบที่เธอคาดไม่ถึงว่าจะหยิบมาแต่งได้อย่างไร และเธอกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์จากเพื่อนฝูงที่ไม่ได้แต่งตัว "แนว" แบบนั้น ดิฉันจึงยิงคำถามใหม่ว่า แวบแรกที่เธอเห็นการแต่งตัวของผู้หญิงคนนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร

      "น่ารักดีคะ" เธอตอบ


      นั่นละค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าการแต่งตัวน่าจะมีเพียงแค่คำว่า "สวย-น่ารัก" "เหมาะ" และ "ถูกกาลเทศะ" หรือไม่ สังเกตสิคะว่าเสื้อผ้า ready to wear สมัยนี้ต่างตัดเย็บมาให้เราเลือกสวมใส่ตามใจชอบ เสื้อผ้าที่เคต มอสออกแบบก็ไม่จำเป็นต้องใส่ให้เป็นเคต มอส เสื้อผ้าที่วิเวียน เวสต์วูดออกแบบก็ไม่จำเป็นต้องแต่งออกมาเป็นมินิเวสต์วูดกันทั้งถนน ลุคบนรันเวย์เป็นการนำเสนอแบบหนึ่ง คอสตูมในหนังในซีรีส์ก็มีไว้เพื่อบอกคาแร็กเตอร์ของตัวละครเท่านั้น

      ขอเพียงคุณจับความรู้สึกของเสื้อผ้าและเครื่องประดับได้ ไม่ว่าจะหยิบจับชิ้นที่เปรี้ยวจี๊ดประหลาดล้ำ หวานจ๋อย หรือซูเปร์คลาสซี่มาแต่งอย่างไร คาแร็กเตอร์และความเป็นตัวคุณก็ไม่หายไปไหน และจะไม่มีคำว่า "แนว" หรือคำใดๆมาจำกัดกรอบการแต่งตัวของคุณไว้

     แนะนำว่าให้ลองเปิดใจกว้าง เลิกยึดติดกับลุคใดลุคหนึ่ง หยุดคิดเพียงว่าแบบนั้นไม่ใช่ตัวฉัน ไม่ใช่สังคมของฉัน  จนกว่าจะได้ลองสวมใส่สักครั้งอย่าง...

     ไร้ขีดจำกัด











No comments:

Post a Comment